สาว ๆ ทุกคนที่อยากมีผมยาวสลวย แลดูมีสุขภาพดี สมัยนี้ก็ต้องพึ่งเทคโนโลยีกันแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นหมักผม อบไอน้ำ ทำทรีทเม้นต์ และอีกสารพัด แต่สำหรับสาว ๆ หมู่บ้านแห่งนี้ แม้ว่าจะมีสภาพเป็นเพียงชนบทเล็ก ๆ ไร้ซึ่งเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่กลับมีชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องของการดูแลรักษาเส้นผมให้ยาวสลวยดูมี สุขภาพดี และดำขลับจนใคร ๆ ต้องอิจฉากันเลยล่ะค่ะ
สำหรับนี้คือ หมู่บ้านหวงลั่ว เป็นที่อยู่ของชาวเผ่าเย้าแดง เมืองหลงเซิ่ง มลฑลกวางสีของจีน ซึ่งชาวบ้านที่นี่นิยมใส่เสื้อผ้าสีแดงสดใส จึงเรียกเผ่าเย้าที่อาศัยอยู่ที่นี่ว่า เย้าแดง โดยหมู่บ้านแห่งนี้เพิ่งจะเปิดต้อนรับประชาชนให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรมไม่นานมานี้
เอกลักษณ์ ที่โดดเด่นของหมู่บ้านชาวเผ่าเย้าแดง นั่นคือ สาว ๆ ทุกคนจะไว้ยาวคนละเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 เมตร นอกจากผมยาวแล้วยังเป็นผมที่ดำขลับไม่มีแตกปลายหรือแห้งกรอบ ทั้งนี้ เนื่องจากการไว้ผมยาวเป็นขนบธรรมเนียมของชนเผ่าเย้าแดง ในชีวิตของสาวเผ่าเย้าจะมีการตัดผมของเพียงแค่ครั้งเดียวคือตอนอายุ 18 ปี โดยคนที่มีเส้นผมยาวที่สุดขณะนี้คือคุณยายอายุ 73 ปี ซึ่งมีความยาวเส้นผม 2 เมตร แถมยังดำขลับไม่เห็นผมขาวสักเส้น
สำหรับเคล็ดลับในการดูแลเส้นผมนั้น สาว ๆ ชนเผ่าเย้าแดงจะมีสูตรยาสระผมที่ผลิตด้วยตนเองจากน้ำซาวข้าวที่หมักจนเกิด ปฏิกริยาทางเคมีเป็นเวลา 1 สัปดาห์, เปลือกส้มโอ และกากจากเมล็ดชาที่คั้นเอาน้ำมันออกแล้ว นำมาผสมและต้มให้เดือด จากนั้นจึงนำมาสระผม โดยใช้น้ำแร่จากภูเขา สาว ๆ ที่นี่ไม่ว่าจะหน้าหนาวหรือหน้าร้อนก็จะใช้น้ำแร่นี้สระผม และจะไม่ใช้น้ำร้อนสระผมเด็ดขาด
นอกจากนี้ สาวเย้าแดงเป็นสาว ๆ ที่ชอบความครึกครื้น เวลาจะสระผมก็มักจะรวมตัวกันสระผม ถ้าอากาศดีก็จะออกไปที่ลำธาร แต่ถ้าวันไหนฝนตกก็จะรวมตัวกันอยู่ที่สวนหลังบ้าน โดยผมของสาวเย้าแดงจะมีผมอีกสองมัดที่มัดรวมกับผมจริง ซึ่งสองมัดที่ว่านี้ มัดหนึ่งเป็นผมของเจ้าตัวที่ตัดออกตอนอายุ 18 และมีเศษผมที่ร่วงเวลาหวีก็จะนำมามัดรวมกัน ส่วนอีกมัดหนึ่งอาจจะเป็นของแม่หรือยายที่ตกทอดกันมา ซึ่งการที่นำผมที่ ตัดออกมาแล้วมัดรวมกันไว้ ถือเป็นประเพณีที่แสดงความเคารพต่อเส้นผมของชาวเย้าแดง ดังนั้นกว่าจะแกะผมออกมาและเริ่มสระผมกันได้ ก็กินเวลากันเกือบ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น