Sumittra Computer Education

นางสาวสุมิตรา พันนุ้ย
รหัส 52031390209
เอกคอมพิวเตอร์ศึกษา ชั้นปีที่ 4

วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555

กินเม็ดบัวป้องกัน มะเร็งตับ



แหล่งโปรตีนเช่นเดียวกับการกินถั่วเหลือง ที่ธัญพืชพื้นบ้านชนิดนี้สร้างความฮือฮาให้ชาวโลกคือ มีการวิจัยพบว่า เม็ดบัวมีสารแอนติออกซิแดนต์ในปริมาณสูง ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น ชะลอการเสื่อมของอวัยวะและผิวพรรณ ป้องกันมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับ

เม็ดบัวมีประโยชน์ทางยาสูงมาก แพทย์แผนไทย แนะนำว่า ช่วยบำรุงกำลัง แก้โรคข้อต่างๆ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ส่วนแพทย์แผนจีนบอกว่า ช่วยบำรุงไต ม้าม หัวใจ และตับซึ่งตรงกับงานวิจัยในต่างประเทศที่ระบุว่า

“สารแอนติออกซิแดนต์จะช่วยปกป้องและบำรุงตับ โดยเฉพาะตับที่ต้องขับสารแอฟลาท็อกซิน(Aflatoxin) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งตับออกจากร่างกาย การกินเม็ดบัวจึงสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งได้”

เม็ดบัวไทย-จีน ความเหมือนที่แตกต่าง

การเลือกกิน เม็ดบัวส่วนใหญ่ที่เราเห็นทั่วไป จะเป็นสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีนซึ่งจะมีเมล็ดขนาดใหญ่ ผ่านการกะเทาะเปลือก ดึงดีบัว(ต้นอ่อนที่ฝังอยู่กลางเมล็ดมีสีเขียวเข้ม)ออก และอบแห้งแล้ว

ส่วนเม็ดบัวไทยนั้นไม่ค่อยพบวางจำหน่ายในท้องตลาด เนื่องจากมีเมล็ดเล็ก จึงไม่เป็นที่นิยม แต่จากผลการวิจัยของ อาจารย์ปริญดา ที่ศึกษาเปรียบเทียบปริมาณสารแอนติออกซิแดนต์ในเม็ดบัวไทยและจีนพบว่า เม็ดบัวไทยมีปริมาณสารแอนติออกซิแดนต์สูงกว่าเม็ดบัวจีน 5-6 เท่า

อาจารย์ปริญดาจึงแนะนำว่า ถ้าต้องการให้ร่างกายได้รับสารแอนติออกซิแดนต์ปริมาณสูงควรเลือกกินเม็ดบัวไทยดีกว่า โดยเฉพาะเม็ดบัวไทยสด

วิธีกินคือ ลอกเปลือกออกจากเมล็ด โดยไม่ดึงเยื่อหุ้มเมล็ดและดีบัวออก กินสดๆทั้งเมล็ด จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านมะเร็งซึ่งอยู่บริเวณเยื่อหุ้มเมล็ด และดีบัวในปริมาณสูง

ส่วนชนิดอบแห้งนั้น เรานำมาทำอาหารคาวหวานได้หลากหลาย ที่คุ้นเคยกันดี คือ น้ำอาร์ซี เม็ดบัวต้มน้ำตาลทรายแดง ผสมในเต้าฮวย หรือเต้าทึง ข้าวอบใบบัว เป็นต้น

ส่วนเคล็ดลับการเลือกซื้อให้ได้ของสดใหม่ คุณภาพดีมีดังนี้ค่ะ

ชนิดอบแห้ง
1. ควรเลือกเมล็ดที่มีสีเหลืองนวล ถ้ามีสีเหลืองเข้ม แสดงว่าเป็นเม็ดบัวเก่าที่เก็บไว้นานแล้ว เมล็ดไม่แตกหัก และไม่มีฝุ่นละอองปนเปื้อน
2. ขั้วเมล็ดไม่ดำคล้ำ เพราะจะเป็นเมล็ดที่เก็บไว้นานแล้ว
3. ไม่มีกลิ่นสาบหรือเหม็นหื่น

ชนิดฝักสด
เลือกฝักที่มีเมล็ดขนาดใหญ่ สีเขียวอ่อน จะได้เม็ดบัวที่มีเนื้อกรอบ หวานกำลังดี คราวนี้ถ้าเจอฝักบัวสดในตลาดอย่าลืมซื้อติดไม้ติดมือมาคนละสองสามกำนะ

วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

รวม ภาษาวัยรุ่น โดนๆ ซึ้งกินใจ!


เดี๋ยวนี้ใน Social Network ต่างก็มีคนสร้างสรรค์ ข้อคิดสอนใจ ประโยคเด็ก โดนในวันรุ่น กันเยอะ ไม่ว่าจะทำผ่านอินสตาแกรม เฟสบุ๊ก ในรูปแบบการวาดรูป การเขียนข้อความ ถ้า teen.mthai ยกตัวอย่างเพื่อนๆก็คงจะรู้จักกันแน่ๆ เช่น 6สิงหา , lipta บลาๆๆ แต่วันนี้ทีอยากจะนำมาให้เพื่อนๆดูกันก็เป็น ความคิดสร้างสรรค์ ในเฟสบุ๊กที่ชื่อว่า คิ้วต่ำ เขาได้เปรียบเปรยคำพูด ความรูืสึก อารมณ์ผ่านตัวการ์ตูนที่เขาวาดขึ้น ได้อ่านแล้วเพลินดีคะ ^^ เรียกได้ว่าเป็นไอเดียที่สร้างสรรค์มากๆอีกทางหนึ่งเลยหล่ะคะ
ภาษาวัยรุ่น,รัก,ผู้หญิง,ผู้ชาย,ปัญหาวัยรุ่น
อยู่กับเธอแล้วสบายใจ ได้เป็นตัวของตัวเอง
ภาษาวัยรุ่น,รัก,ผู้หญิง,ผู้ชาย,ปัญหาวัยรุ่น
น้องซีดีกับพี่ทัมบ์ไดรฟ์ : บางคนจำแล้วลบ แต่สำหรับบางคน จำแล้วจำเลย
แน่นอน!! เพราะโลกนี้มีฮีโร่ ได้หลายคน
คำพูดเขาที่ทำร้ายเราโดยที่ไม่เป็นความจริง
สุดท้ายจะเป็นอาวุธที่ยิงกลับไปทำร้ายเขาเอง

ไม่มีอะไร แค่ดอกไม้สีสวย ฮ่าๆๆๆๆ

ตัวน้อยๆ น่ารักมาก...



ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย
ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย

สุดยอดดารา YouTube ที่คนกด Like และ Dislike มากที่สุดในโลก



 ผมเพิ่งได้เจอกับ เชฟ ชื่อดังคนหนึ่งซึ่งหลายๆ คนก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเขาดังได้ยังไงเพราะชื่อกับหน้าตาไม่คุ้นและไม่รู้จักเลย แต่สำหรับใครที่เล่น Facebook อยู่บ่อยๆ คงจะเคยได้ยินชื่อ เชฟหมี เชฟสอนทำอาหารแบบง่ายๆ จากของที่มีอยู่ในตู้เย็น ในชื่อรายการ เชฟหมี ครัวกากๆ กลายเป็นชื่อที่คุ้นหูและโด่งดังจนกลายเป็นดาราแจ้งเกิดบน YouTube ที่หลายคนเป็นแฟนติดตามและรู้จัก ยังมีคนไทยอีกหลายคนที่กลายเป็นที่รู้จักจาก คลิป ที่ทำขึ้นมาสนุกๆ แต่โดนใจจนต้องบอกต่อ 
          
ไม่ต่างจากดาราดังบน YouTube ต่างชาติหลายคนที่กลายเป็นบุคคลสาธารณะเนื้อหอมเข้าขั้นเปเทียบชั้นเป็นดาราดัง มีค่ายเพลง โฆษณาติดต่อเข้ามามากมาย มาพร้อมรายได้มหาศาล เห็นได้เลยว่าดารา ศิลปินหน้าใหม่สมัยนี้ มีช่องทางให้เป็นที่รู้จักได้ไม่ยาก และไม่ต้องรอแมวมองกันแล้ว
          
YouTube แจ้งเกิดให้หลายคนให้เป็นดาราก็ดังข้ามโลกได้ไม่ยากขอแค่มีของดีจริงๆ อย่างลุงไซ แห่ง "กังนัมสไตล์" ที่ดังจนตอนนี้ใครๆ ก็ฉุดกันไม่อยู่แล้ว คิวโชว์ตัวในยุโรปยาวเป็นหางว่าวเรียกว่าคิวทองสุดๆ หรือ จัสติน บีเบอร์ นักร้องวัยรุ่นก็ฮอตฮิตติดลมบนเป็นนักร้องดังระดับโลกใช้เวลาสร้างชื่อไม่กี่ปี ต่างจากเมื่อก่อนที่กว่าจะกลายเป็นนักร้องดังอันดับโลกได้ต้องอาศัยเวลาแต่เดี๋ยวนี้แค่ข้ามคืนก็ดังได้แล้ว

ล่าสุดเพิ่งมีการรวบรวมสุดยอดวิดีโอที่ดังมากๆ บน YouTube เพื่อจัดอันดับสุดยอดวิดีโอยอดฮิตตลอดกาลปีนี้มีดาราหน้าใหม่เข้าสู่ชาร์ตหลายคนอย่าง นักร้องวัยรุ่น Carly Rae Jepsen เจ้าของเพลง Call me Maybe และหน้าใหม่ในชาร์ตจากเอเชีย กังนัมสไตล์ ก็ได้ขึ้นเป็น 1 ใน 30 สุดยอดคลิปที่มียอดการชมสูงสุดตลอดการของ YouTube หน้าใหม่รายนี้ร้อนแรงจริงๆ
          
แต่ลุงไซ กังนัม ดังไม่เพียงเท่านั้น จากการจัดอันดับคลิปบน YouTube ที่มีการกด Like มากที่สุดตอนนี้ทำลายทุกสถิติลงหนังสือ Guin?ness World Record เพลงกังนัมสไตล์กลายเป็นคลิปวิดีโอบน YouTube ที่มีการกดไลค์มากที่สุดในโลก ตัวเลขการกดไลค์สูงถึงกว่า 2,141,758 ครั้ง ทำลายสถิติอันดับหนึ่งเดิมที่นักร้องวง LMFAO เพลง Party Rock Anthem ที่ทำยอดกดไลค์บน YouTube ถึง 1,574,963 ครั้งเคยเป็นตัวเลขสูงสุด ซึ่งเคยแย่งสถิติจาก Justin Bieber ที่เคยทำไว้ในเพลง Baby 1,327,147 ไลค์ และรองลงมาจากนั้นเป็นเพลง Rolling in the deep ของนักร้องเสียงทรงพลัง อะเดล สร้างไว้ 1,245,641 ไลค์ตามลำดับ 5 คลิปที่คนกดไลค์สูงสุด
          
แต่หากนึกถึงคนที่มีคนกด ไม่ชอบ หรือ Dislike สูงสุดก็ต้องนึกถึงสาวน้อย Rebecca Blackเพลง Friday ที่มียอดกด ดิสไลค์ เป็นประวัติการณ์อีกคน จะเป็นดาราดังยุคนี้ต้องได้ดีใน YouTube ด้วย

พนง.มหาลัยเฮ!! จบ ป.ตรี รับ 15,000 ย้อนหลัง ม.ค.55


ข่าวดีสำหรับพนักงานมหาวิทยาลัยที่จบปริญญาตรี หลังนายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ได้ลงนามในหนังสือแจ้งไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เรื่องการของบจัดสรรงบประมาณเพิ่มเพื่อการเบิกจ่ายค่าครองชีพชั่วคราวของพนักงานมหาวิทยาลัย ที่จ้างด้วยเงินงบประมาณแผ่นดิน ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้กับผู้จบปริญญาตรี 15,000 บาทต่อเดือน
โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ซึ่งเป็นงบกลางให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยในวงเงิน 305,150,678 บาท ให้กับมหาวิทยาลัยทั้ง 79 แห่ง จำนวน 13,709 คน ประกอบด้วย
- มหาวิทยาลัยราชภัฏ 40 แห่ง วงเงิน 119,050,165.00 บาท จำนวน 4,584 คน
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง
- มหาวิทยาลัยส่วนราชการ 16 แห่ง และ
- มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ 14 แห่ง
ทั้งนี้ พนักงานมหาวิทยาลัยจะได้เงินย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 ก.ย.2555
อย่างไรก็ตาม เงินที่ได้ครั้งนี้จะเป็นเงินของพนักงานมหาวิทยาลัยที่ใช้งบประมาณแผ่นดินจ้างเท่านั้น ส่วนพนักงานมหาวิทยาลัยที่ใช้เงินรายได้ของมหาวิทยาลัยจ้าง ทางมหาวิทยาลัยต้องใช้เงินมหาวิทยาลัยเอง

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

ยาทาเล็บแบบใส . . .ทำอะไรได้บ้าง


ยาทาเล็บแบบใส . . .ทำอะไรได้บ้าง
ยาทาเล็บแบบใส ประโยชน์ของมันไม่เพียงแค่เคลือบเล็บให้แข็งแรงและน่าดูเท่านั้นนะคะ แต่มันยังช่วยงานอื่นๆ ของคุณได้ด้วย วันนี้จะขอยกตัวอย่างประโยชน์เจ๋งๆ ของมันมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

-ถ้าคุณกำลังสนุกกับการทำโมเดลหรืองานฝีมือที่ต้องใช้กาวติดชิ้นส่วนพลาสติก แต่กาวเกิดขาดมือ ลองใช้ยาทาเล็บแบบใสติดชิ้นส่วนพลาสติกแทนกาว มันใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน หรืออาจใช้ในการติดอัญมณีปลอมๆ บนเครื่องประดับที่หลุดออกมา หรือใช้ตรึงน็อตที่หลวมก็ได้

- เครื่องประดับแบบราคาไม่แพงอาจสูญเสียความมันวาวไปได้เมื่อใช้ไปนานๆ เพื่อรักษาความงามของมันเอาไว้ ใช้ยาทาเล็บแบบใสทาเคลือบเอาไว้ แล้วคุณจะสามารถบอกลาคราบดำและสีสันที่ซีดจางไปได้เลย

- กำจัดหูด หูดเป็นเรื่องน่าอายและเป็นการติดเชื้อ เพื่อกำจัดมัน ใช้ยาทาเล็บแบบใสทาทับลงไป หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์มันจะหลุดออกไป แต่ควรโยนยาทาเล็บขวดที่ใช้ทาหูดทิ้งไปหลังจากการใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสจากหูดแพร่กระจายไปที่อื่นอีก

- เคล็ดลับยอดนิยมของบรรดาคุณแม่ทั้งหลายก็คือ เวลาที่คุณทำมีดบาดตัวเองเล็กๆ น้อยๆ รอให้เลือดหยุดไหลเสียก่อน แล้วทายาทาเล็บแบบไร้สีทับลงไปบนรอยแผล มันจะช่วยปิดรอยแผลแทนพลาสเตอร์ได้เลย

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

ซึ้ง...สุดอาลัยไม่เคยจาง สุนัขเฝ้าสุสานของเจ้าของนาน 6 ปี


เรื่องราวซึ้งๆ ถึงความรักและภักดีของสุนัขพันธุ์เยอรมันเซฟเพิร์ตชื่อ "แคปปิตัน" ตอกย้ำถึงความภักดีของสุนัขให้เราได้รับรู้อีกครั้ง เมื่อมันนั่งและนอนเฝ้าสุสานของเจ้านายของมันไม่เคยห่างมาตลอด 6 ปี 

เจ้าของของเจ้าแคปปิตันชื่อ มิเกล กูซแมน ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่ปี 2006 และนับตั้งแต่วันนั้น เจ้าแคปปิตันก็นั่งเฝ้าอยู่ในสุสานไม่ห่างและร้องโหยหวนด้วยความอาลัยรักต่อนายของมัน 

แต่เดิมนายกูซแมนซื้อเจ้าแคปปิตัน เป็นของขวัญให้เดเมียนลูกชายของเขาครบรอบ 13 ปีในปี 2005 แต่เขาเสียชีวิตกระทันหันเดือนมีนาคมในปีถัดมา หลังจากมิเกลเสียชีวิต แคปปิตันก็หายออกจากบ้าน ภรรยาของมิเกล เวโรนิก้า บอกกับหนังสือพิมพ์ของอาร์เจนติน่า "คอร์โดบา" ว่า พวกเขาตามหาแคปปิตัน และเชื่อว่ามันหนีออกจากบ้าน แต่เมื่อพวกเขาไปที่สุสาน วิลล่า คาร์ลูซ พาซ เขาเห็นแคปปิตันเห่าและร้องโหยหวนราวกับว่ามันกำลังร้องไห้ 

เวโรนิก้าเล่าต่อไปว่า พวกเขาไม่เคยพามันไปที่สุสาน จึงเป็นที่น่าประหลาดใจที่มันสามารถไปยังสุสานได้ยังไง วันอาทิตย์ถัดมาพวกเขาไปยังสุสานอีกครั้งก็เห็นมันยังคงอยู่ แต่คราวนี้มันกลับบ้านพร้อมกับพวกเขา แต่มันก็กลับไปที่สุสานอีกครั้งก่อนมืด และมันก็ทำอย่างนี้ตลอด 6 ปี เดเมียนพยายามพามันกลับบ้านมาตั้งหลายครั้ง แต่ก็ต้องอ่อนใจเมื่อมันหนีและกลับไปยังสุสานทุกครั้ง เขาเชื่อว่าแคปปิตันตัดสินใจอยู่ที่นั่นจนตาย และมันคงพยายามตามหาพ่อหลังจากที่พ่อเสียชีวิต 

บัคเซก้า ผู้ดูแลสุสาน วิลล่า คาร์ลูซ เล่าว่า ครั้งแรกที่มันเห็นเจ้าแคปปิตันเข้ามา เห็นมันเดินวนรอบสุสานจนกระทั่งพบหลุมฝังศพของเจ้านายของมัน ทุกๆวันมันจะเดินป้วนเปี้ยนบริเวณสุสาน แต่เมื่อถึงเวลาหกโมงมันก็จะนั่งข้างหลุมศพนายของมันและอยู่ตรงนั้นทั้งคืน บัคเซก้าตอนนี้เป็นผู้ดูแลและให้อาหารเจ้าแคปปิตัน 

เรื่องราวของแคปปิตัน เหมือน ฮาชิโกะ สุนัขพันธุ์อากิตะสายพันธุ์ญี่ปุ่น ที่นั่งรอศาสตราจารย์ ฮิเดซามุโระ อุเอโนะ ที่สถานีรถไฟชิบูย่าตลอด 10 ปีจนมันแก่ตายที่นั่น
unigang 

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

ศิลปะจากเข็มหมุด สวยมากๆ

สาวหน้าเหมือนตุ๊กตาจากทั่วโลก น่ารักมาก

จากประเทศเยอรมัน
จากประเทศเยอรมัน
จากประเทศอังกฤษ
จากประเทศอังกฤษ
จากประเทศสหรัฐอเมริกา
จากประเทศสหรัฐอเมริกา
จากประเทศจีน
จากประเทศจีน
สาวหน้าตุ๊กตา คนล่าสุดของโลก
สาวหน้าตุ๊กตา คนล่าสุดของโลก
 จากประเทศรัสเซีย
จากประเทศรัสเซีย

ชาวบ้านแตกตื่นคลื่นประหลาดกลางน้ำโขง เชื่อพญานาคโผล่

ขอบคุณภาพจาก มติชน
ขอบคุณภาพจาก "มติชน"

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 13 กันยายน ว่า ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง วัดพระบาทเวินปลา บ้านเวินพระบาท ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
ได้มีประชาชน จำนวนมาก ต่างพากันแตกตื่นแห่ไปชมคลื่นประหลาดกลางแม่น้ำโขง ใกล้กับรอยพระพุทธบาทเวินปลา ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ที่มีตำนานมาแต่อดีต ซึ่งจากการสังเกตพบว่า เป็นคลื่นบนผิวน้ำที่วนไปมา แต่ทวนกระแสน้ำผิดธรรมชาติ ทั้งที่น้ำโขงไหลเชี่ยว เหมือนลักษณะงูใหญ่เลื้อยบนผิวน้ำ และเป็นเงาคล้ายสีดำคล้ายลำตัวงูขนาดใหญ่เป็นบางช่วง แต่ไม่สามารถเห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใด



ทั้งนี้ จากการสังเกตพบว่า เป็นคลื่นบนผิวน้ำที่วนไปมา แต่ทวนกระแสน้ำผิดธรรมชาติ ทั้งที่น้ำโขงไหลเชี่ยว
เหมือนลักษณะงูใหญ่เลื้อยบนผิวน้ำ และเป็นเงาคล้ายสีดำคล้ายลำตัวงูขนาดใหญ่เป็นบางช่วง แต่ไม่สามารถเห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใด อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพญานาคที่มีโชว์อิทธิฤทธิ์ ให้ประชาชนได้พบเห็น ตามความเชื่อของชาวลุ่มน้ำโขง ทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นาๆ ซึ่งก่อนที่จะมีชาวบ้านมาพบคลื่นประหลาดบนผิวน้ำ ประมาณ 4 -5 วัน ได้มีชาวบ้านพบรอยประหลาดคล้ายงูขนาดใหญ่ เลื้อยขึ้นมาจากแม่น้ำโขง บริเวณบันไดริมตลิ่งน้ำโขงข้างวัด ทำให้ชาวบ้านต่างพากันมากราบไหว้บูชาขอหวย เนื่องจากเชื่อว่าเป็นรอยพญานาค และบางคนได้นำดอกไม้ธูปเทียน และเครื่องสักการบูชามาถวาย เพื่อขอโชคลาภ




นางทิพย์สุดา บุญโฮม อายุ 50 ปี ชาวบ้านที่มาชม กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้บริเวณบันไดข้างวัด ริมตลิ่งแม่น้ำโขง

ได้มีชาวบ้านพบรอยประหลาด คล้ายรอยงูขนาดใหญ่เลื้อยผ่าน จึงพากันนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้บูชา เนื่องจากเชื่อว่าเป็นรอยพญานาค ทำให้ชาวบ้านต่างพากันอธิษฐานจิต ว่าหากเป็นรอยพญานาคขอให้ปรากฏกาย ให้เห็นจนกระทั่งได้มีชาวบ้านมาทำบุญ จึงมองเห็นว่ามีคลื่นน้ำประหลาดเกิดขึ้นกลางแม่น้ำโขง มีลักษณะผิดธรรมชาติลอยทวนน้ำวนไปมาคล้ายงูขนาดใหญ่ แต่ไม่เห็นลำตัวชัดเจน ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นพญานาคที่ปรากฏกายให้เห็น พอชาวบ้านทราบข่าวจึงพากันแห่มาดู ด้วยความแตกตื่น บางคนเกิดความเชื่อจนต้องพนมมือขึ้นหัว โดยชาวบ้านเชื่อว่า พญานาคมาให้โชคลาภ บวกกับสถานที่บริเวณนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ใต้น้ำโขงมีรอยพระพุทธบาทเวินปลากลางน้ำโขง เมื่อน้ำโขงแห้งชาวบ้านจะได้กราบไหว้ทุกปี ซึ่งครั้งนี้อาจจะเป็นการแสดงปาฏิหาริย์ของพญานาค ให้ประชาชนได้เห็น

เห็บหมัดกัดยับ!92คนไทยคุกพม่า

สภาวะฝนที่ตกหนัก อากาศชื้นทำให้ 'เห็บ-หมัด' ในเรือนจำบ้านเก้าไมล์ จ.เกาะสอง ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว 92 ชาวบ้านคนไทยที่ถูกคุมขังอยู่ ถูกกัดยับ จนท.เรือนจำ เร่งประสานขอทางการไทยจัดส่งยาป้องกัน-รักษา ไปให้ด่วน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 55 เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-พม่า พื้นที่ 6 แจ้งว่า

จนท.ทางการพม่าได้รับการประสานจาก จนท.เรือนจำบ้านเก้าไมล์ จ.เกาะสอง ว่าให้ทาง จนท.ฝ่ายไทยช่วยประสานไปยัง รพ.ระนอง เพื่อขอสนับสนุนยาป้องกันเห็บ หมัด ที่พบว่า ในเรือนจำ เห็บและหมัดขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว จากสภาวะฝนที่ตกหนัก อากาศชื้น จนสร้างความเดือดร้อน รำคาญให้กับผู้ต้องขังทั้งชาวไทยและพม่าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ต้องขังชาวไทยหลายคนถูกเห็บ หมัด กัดจนเกิดอาการแพ้ ส่วนโรคอื่นๆ ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมีเพียงไข้หวัดตามฤดูกาล รวมถึงโรคประจำตัว

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง กล่าวว่า

ทาง รพ.ระนอง เคยได้รับการประสานมาครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับปัญหาเรื่องเห็บ และหมัด ซึ่งทาง รพ.ระนองได้จัดส่งยาไปให้ รวมถึงยาทากันยุงเพื่อทาป้องกันตัวเห็บ และหมัดได้ เจ้าหน้าที่ทางการพม่าได้ประสานมายัง จนท.ฝ่ายไทย เพื่อขอให้ส่งยาและเวชภัณฑ์นำไปให้ 92 คนไทยที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำบ้านเก้าไมล์ จ.เกาะสอง เพิ่มเติม หลังพบชาวบ้านที่ถูกคุมขังมีอาการป่วยหลายราย


รวมถึงกลุ่มชาวบ้านที่มีโรคประจำตัวทั้งความดัน เบาหวาน ภูมิแพ้ ที่ต้องทานยาอย่างต่อเนื่อง

พบว่าหลายคนขาดยามาหลายวัน อาจจะทำให้โรคกำเริบเป็นอันตรายได้ ซึ่งในส่วนของทางการพม่าได้ช่วยเหลือในระดับหนึ่ง แต่พบว่า ยาหลายตัวที่ไม่มีจะต้องขอสนับสนุนจากไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระนองได้ประสานไปยังญาติผู้ที่ถูกคุมขังเพื่อรับทราบถึงโรคประจำตัวและยาที่แต่ละคนรับประทาน โดยให้ญาติระบุรายละเอียดรวมถึงตัวอย่างยาและดำเนินการส่งไปให้แล้วครั้งหนึ่ง


นายวีระธรรม ยิ้มวรรณ ญาติ 92 ชาวบ้านคนไทย กล่าวว่า


ตอนนี้เป็นห่วงสภาพความเป็นอยู่ของญาติที่ถูกคุมขัง ต้องการที่จะให้ จนท.ฝ่ายไทย เร่งประสานทางการพม่าเพื่อขอให้เปิดให้ญาติคนไทยเข้าไปเยี่ยมอีกครั้ง รวมถึงการดำเนินการยื่นเรื่องขออภัยโทษด้วย

ฮือฮาจิ้งจงสีแดงตั้งท้อง ชาวบ้านแห่ขอโชคลาภ ตีเลขเด็ด

ขอบคุณภาพจากข่าวสด
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 12 ก.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า

ที่บ้านเลขที่ 122 ม.11 ต.ช้างว้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ของนายสัญญา แป้นดวง อายุ 39 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านดังกล่าว ได้มีชาวบ้านเดินทางมาดูสิ่งแปลกประหลาดกันอย่างไม่ขาดสาย หลังจากนายสัญญา ได้พบจิ้งจกตัวสีแดงสดมาอาศัยอยู่ภายในบ้าน โดยนายสัญญาได้นำจิ้งจกตัวแดงดังกล่าวมาใส่ไว้ในตู้แก้ว ซึ่งใส่น้ำไว้ให้ดื่มด้วย จากการสังเกตพบว่าจิ้งจกตัวดังกล่าวนั้นมีสีแดงสดทั้งตัว จะคุ้นกับเจ้าของบ้าน ไม่มีอาการตกใจเมื่อแตะตัวมัน และกำลังตั้งท้องจะวางไข่ ชาวบ้านที่เดินทางมาดูได้พากันถ่ายภาพไว้เนื่องจากไม่เคยเห็นจิ้งจกตัวสีแดงสดอย่างนี้มาก่อน เชื่อว่าเป็นตัวนำโชคมาให้ชาวบ้าน โดยชาวบ้านบางคนเมื่อเห็นก็ได้ตีเป็นเลขเด็ดต่างๆ นาๆ เนื่องจากความแปลกประหลาดของจิ้งจกที่มีสีไม่เหมือนกับจิ้งจกทั่วไป


นายสัญญา กล่าวว่า ได้พบจิ้งจกตัวนี้ตั้งแต่ 2 วันก่อน อาศัยอยู่ที่หิ้งพระในบ้าน
ซึ่งแปลกมากเพราะขณะที่เข้าไปจับมันไม่ได้ตกใจหรือวิ่งหนีเหมือนจิ้งจกตัวอื่นๆ และทำท่ายักคอทักทายด้วย เห็นว่ามันแปลกดีจึงจับมาขังไว้ในตู้แก้วขนาดเล็ก ซึ่งอยู่ในตู้นี้ 2 วันแล้วมันก็ยังมีสีแดงสดอยู่อย่างนี้ตลอด จนชาวบ้านทราบข่าวจึงเดินทางมาดูและตีเป็นเลขหวยตลาดเวลา


ด้านนางจับ แป้นดวง อายุ 76 ปี มารดาของนายสัญญา กล่าวว่า ตนอายุเข้าปูนนี้แล้วยังไม่เคยพบเห็นจิ้งจกตัวสีแดงสดมาก่อน

ที่ว่ามันเปลี่ยนสีให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ แต่ตัวนี้จับมาขังไว้ 2 วันก็ยังมีสีแดงอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ถ้ามันอยู่กับเราแล้วเป็นตัวให้โชคลาภก็ถือว่าเป็นเรื่องดี และจะเลี้ยงไว้อย่างนี้ต่อไปเพราะรู้สึกว่ามันจะคุ้นเคยกับคนในบ้านทุกคน ซึ่งเพื่อนบ้านที่มาดูจะตีเป็นเลขเด็ดทุกคน แต่ก็เป็นเลขที่แตกต่างกันไป